TIPs ..เกี่ยวกับการแต่งหน้า..

ขั้นตอนในการแต่งหน้า

1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด โดยการล้างหน้า แล้วบำรุงด้วยมอยซ์เจอร์ไลเซอร์ รวมทั้งการปกป้องใบหน้าจากแสงแดดด้วยการใช้ครีมกันแดด

2. ทารองพื้น เลือกรองพื้นให้เหมาะกับผิวดังนี้

• ผิวมันเลือกชนิดบางเบาในรูปของเจลหรือน้ำ
• ผิวแห้งเลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
• ถ้าผิวที่มีสิวให้เลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมของ oil free

       การลงรองพื้น ใช้นิ้วกลางหรือฟองน้ำแต้มรองพื้นบนใบหน้า 5 จุด ได้แก่ หน้าผาก สันจมูก คอ คาง และแก้ม (แต้มทีละจุดแล้วเกลี่ยทีละจุดอย่างรวดเร็วและเบามือ) หากเผลอลงรองพื้นเยอะเกินไปให้ใช้ฟองน้ำปาดออกเบาๆ พยายามเกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรองพื้นกระจุกหนาอยู่ในบางส่วน และหน้ารู้สึกเนียนเรียบ

3. ทาแป้งฝุ่น ไม่ควรใช้สีแป้งใกล้เคียงกับสีของรองพื้นมากนักควรเลือกใช้สีที่บางเบาก่อน เพื่อทำให้หน้าสว่างและดูนวลเนียน หรืออาจใช้แป้งสีเข้มกว่าเพื่อเพิ่มความอบอุ่นนุ่มนวลกับใบหน้า เพราะจะทำให้ผิวดูนวลเนียน และทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น หลังจากนั้นใช้แปรงแต่งหน้าลูบไล้บริเวณกลางใบหน้าไปยังด้านข้าง และปัดไล้แปรงให้ทั่วใบหน้าเพื่อปัดแป้งในส่วนที่เกินออก

4. แต่งคิ้ว เริ่มเขียนคิ้วหากจากหัวคิ้วประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วไล้ไปตามขนคิ้ว เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นใช้แปรงเกลี่ยหรือใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเกลี่ยทับอีกครั้ง แล้วใช้แปรงเขียนคิ้วเกลี่ยย้อนมาทางหัวคิ้ว หลังจากนั้นแตะวาสลินเบาๆ แล้วไล้ที่ขนคิ้วเพื่อให้คิ้วอยู่รูป

5. ทาอายแชโดว์ แตะแป้งฝุ่นที่ใต้ตาก่อนทาอายแชโดว์ เพื่อป้องกันการเลอะ เริ่มทาโดยใช้สีอ่อนเช่น สีครีม สีชมพูอ่อน ทาให้ทั่วเปลือกตา หลังจากนั้นให้ใช้อายแชโดว์สีที่สองสีเข้มขึ้นมาเกลี่ยจากแนวหางตาเข้ามาที่หัวตา สุดท้ายอายแชโดว์สีที่สามให้เกลี่ยชิดแนวขอบตา เริ่มจากหางตาเข้ามากึ่งกลางตา ขอบตาล่างก็ทำเช่นเดียวกันโดยเกลี่ยให้ชิดขอบแนวตา การเลือกสีลง กรณีใส่เสื้อผ้าสีโทนร้อน สีอายแชโดว์สีที่สองควรใช้สีส้มและสีที่สามคือสีน้ำตาล กรณีใส่เสื้อผ้าโทนเย็นสีที่สองควรใช้สีชมพุหรือม่วง ส่วนสีสุดท้ายอาจใช้สีน้ำเงินหรือสีเทา

6. การเขียนอายไลเนอร์ ถ้าต้องการแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติอาจไม่จำเป็นต้องเขียนอายไลเนอร์ แต่ถ้าเป็นงานกลางคืนหรือต้องการให้รูปถ่ายออกมาสวยคมชัด การเขียนขอบตาอาจเขียนเฉพาะด้านบนก็ได้ วิธีการเขียนเขียนให้ชิดกับขอบขนตา

7. การดัดขนตาและปัดมาสคาร่า ขั้นตอนแรกจะต้องดัดขนตาก่อน หลังจากนั้นค่อยปัดมาสคารร่า และควรเป็นมาสคาร่าชนิดกันน้ำ เพื่อจะได้ไม่เลอะ หรือเลือกชนิดใสก็ได้ หากต้องการให้ดูเป็นธรรมชาติ การดัดขนตาแบ่งเป็นสามระดับคือ

        1. เริ่มดัดจากชิดโคนตา ใช้น้ำหนักให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้ขนตาหักงอ

        2. ดัดขนตาที่กึ่งกลางขนตา โดยเพิ่มน้ำหนักเล็กน้อย

        3. ดัดขนตาบริเวณปลายขนตาโดยใช้น้ำหนักมากขึ้นตามลำดับ โดยในการดัดแต่ละขั้นตอนนั้นให้ทำสามครั้ง (หรือสามจังหวะติดๆกัน )หลังจากนั้นค่อยปัดมาสคาร่า หากต้องการดัดเพิ่มหลังทามาสคาร่าแล้วให้ดัดเพียงครั้งเดียวบริเวณโคนตาเท่านั้น

8. ปัดบลัชออน วิธีการเติมแก้มให้เป็นสาวสุขภาพดี และดูมีเลือดฝาด เริ่มจากการใช้แปรงขนนุ่มขนาดใหญ่ ไล้สีบริเวณโหนกแก้มหรือสันแก้มตรงตำแหน่งใต้ตา จากนั้นยิ้มให้ตัวเองในกระจก และปัดไล้ขึ้นไปตามแนวสันแก้มขึ้นไปหาขมับ เกลี่ยสีให้กลมกลืนกับสีผิวขึ้นไปหาตีนผม เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ

9. เขียนขอบปาก การเขียนขอบปากจะทำให้ทาลิปสติกได้สวยขึ้น เพราะริมฝีปากจะดุได้รูปมากขึ้น สีดินสอเขียนขอบปากควรเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีริมฝีปากมากที่สุด เพื่อความกลมกลืนไม่หลอกตา

10. ทาลิปสติก เพื่อให้ริมฝีปากสวยได้รูปควรทาลิปสติกด้วยพู่กัน เพราพู่กันจะทำให้ลิปสติกเข้ากับริมฝีปากได้มากขึ้น เมื่อทาแล้วเพิ่มความมันวาวด้วยลิปกลอส เพื่อให้ริมฝีปากดูชุ่มฉ่ำ

 

 

.........................................................................................................................................

ผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดและทำความสะอาดเครื่องสำอาง สำคัญอย่างไร?

สำหรับสาวๆที่แต่งหน้าเป็นประจำ ไม่ควรจะขาด ......
"ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง"หลังการแต่งหน้า
เพราะการเช็ดล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางที่มีโมเลกุลเล็กและสีสันของเครื่องสำอางต่างๆ
ที่เข้าไปแทรกซึมอยู่ในอณูผิวหน้านั้นมีความละเอียดมาก ..หากการล้างหน้าไม่สะอาดเพียงพอ   
จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้นะคะ

การใช้แค่น้ำเปล่าไม่สามารถขจัดเครื่องสำอางที่ตกค้างบนผิวหน้าได้หมดค่ะ 
โดยเฉพาะผู้ที่ชอบใช้เครื่องสำอางแบบติดทนนาน และการแต่งหน้าหนาๆ..
ไม่ว่าจะเป็น เบส, รองพื้น, แป้งเค้ก, แป้งฝุ่น, ฯลฯ และอีกสารพัดที่ประโคมลงบนผิวหน้าที่อ่อนโยนของคุณ   
หากสาวๆท่านใดละเลยและไม่ทำความสะอาดให้ดี สิวหรือผื่นแพ้มาเยือนแน่นอนค่ะ
เพราะฉะนั้นสาวสุขภาพผิวหน้าดีอย่างเราต้องเอาใจใส่และบำรุงผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอนะคะ ....

สาวๆบางท่านบ่นว่าแพ้เครื่องสำอางยี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้ แต่แท้ที่จริงก่อนอื่นต้องถามตัวคุณเองซะก่อนค่ะ
..ว่าหลังการแต่งหน้าของคุณ ได้มีเช็ดเครื่องสำอางออกหมดจรดจริงๆ  ก่อนการล้างหน้าตามปกติแล้วหรือยัง 
ถ้าหากใบหน้าอันงดงามของคุณสาวๆยังไม่ได้เช็ดเครื่องสำอางที่หนาเตอะ!!!บนใบหน้าออกก่อนแล้วล่ะก็ 
โฟมล้างหน้าของคุณก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปล้างผิวหน้าของคุณได้อย่างสะอาดหมดจรดอย่างแท้จริงได้นะคะ ....

ไม่เว้นแม้แต่สาวๆผู้ที่แต่งหน้าแบบบางเบานะคะ อย่าลืมว่าไม่ว่าจะเป็น แป้งฝุ่น หรือครีมเบส (ก่อนทาแป้งฝุ่นทับ)
ที่คุณสาวๆใช้อยู่เป็นประจำนั้น..มีความละเอียดและเบาบางมาก และหากการล้างไม่สะอาดเพียงพอ
ก็อาจจะทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้ค่ะ  จึงขอแนะนำหลังการแต่งหน้าทุกครั้ง

....ควรเช็ดเครื่องสำอางด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดทำความสะอาดผิวสำหรับการแต่งหน้าแบบบางเบา

....ก่อนการล้างหน้าตามปกติของท่านด้วยนะคะ 

ส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางนั้น คุณสาวๆควรจะเลือกให้เข้ากับผิวของคุณเองค่ะ
โดยเฉพาะสาวๆที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวที่มีส่วนผสมของน้ำนมค่ะ   

หรือสาวๆที่มีสุขภาพผิวที่ดีอยู่แล้ว สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ตามใจชอบเลยค่ะ 
แต่อย่าลืมเช็ดล้างเครื่องสำอางก่อนการเข้านอนทุกครั้งนะคะ

ขอย้ำนะค๊ะ ....ความขี้เกียจคือหนทางแห่งการได้มาของสิว ..! นะเจ้าค่ะ

 

วิธีใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง
                    1. (ชนิดครีม)ทาให้ทั่วใบหน้าและนวดเบาๆ แล้วเช็ดด้วยสำสี

วิธีทำความสะอาดคราบเครื่องสำอาง : แต้มครีมบนใบหน้า
5 จุด คือ หน้าผาก จมูก คาง และ แก้มทั้งสองข้าง คลึงเบา ๆ
ให้ทั่วใบหน้า แล้วเช็ดออกด้วยสำลีหรือกระดาษเช็ดหน้า
ทำความสะอาดซ้ำจนหมดคราบเครื่องสำอาง

              (ชนิดน้ำ)  ให้หยดลงบนสำลี แล้วเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้า บางผลิตภัณฑ์สามารถใช้เช็ดได้แม้กระทั่งรอบดวงตาและริมผีปากค่ะ

วิธีใช้ : เขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้ง หยดโลชั่นบนสำลี เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง โดยแยกสำลีที่ใช้บริเวณรอบดวงตา และริมฝีปาก กรณีทำความสะอาดมาสคาร่า กดสำลีที่หยดโลชั่นค้างไว้ชั่วครู่ เพื่อละลายมาสคาร่าโดยเช็ดจากบนลงล่างตามแนวเส้นขนตา

เคล็ดลับความงาม :
ในการเช็ด ควรเริ่มเช็ดจาก ด้านหนึ่งของรอบดวงตา หรือ ริมฝีปาก ไปอีกด้านหนึ่งในทิศทางเดียว ไม่ควรถูไปมา ซึ่งจะทำให้เกิดริ้วรอย

               (การใช้สำลีชนิดแผ่นจะใช้ง่ายและประหยัด สามารถดูที่สำลีว่าเช็ดเครื่องสำอางออกหมดหรือไม่)


             2. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตามปกติค่ะ

            

                    3. เช็ดหน้าให้สะอาด

             4. หลังจากนั้น ใช้โทนเนอร์ เช็ดหน้า    โทนเนอร์จะช่วยกระชับผิวและรูขุมขน เป็นการปรับสภาพผิวค่ะ (ควรใช้หลังการล้างหน้าในตอนเช้า-และตอนเย็น)

โทนเนอร์ จำเป็นอย่างไร?

หลังจากเช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าแล้ว เช็ดหน้าให้แห้ง และ ใช้โทนเนอร์หยดลงบนสำลีและเช็ดหน้าอีกครั้ง เพื่อ ...
โทนเนอร์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง และกระชับรูขุมขนอย่างอ่อนโยน ช่วยควบคุมความมัน พร้อมปรับสมดุลผิว
-  ขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง
-  ช่วยปรับสภาพผิว กระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน
-  ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน
-  ขจัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำ ให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน
-  ปรับสมดุลผิวตามธรรมชาติ เพื่อเตรียมรับความชุ่มชื่นจากการบำรุงในขั้นตอนต่อไป   ...
        
              5. ทาครีมบำรุงผิวของท่านตามปกติค่ะ เช่น ไนท์ครีม, เซรั่มต่างๆค่ะ(ในตอนกลางคืน) หรือผลิตภํณฑ์บำรุงผิวที่ท่านมีตามปกติค่ะ
อย่าลืมนะคะ สาวๆที่รักการแต่งหน้าและจำเป็นต้องแต่งหน้าเป็นประจำเพื่อเพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพ ไม่ควรมองข้ามการทำความสะอาดผิวที่สะอาดอย่างหมดจรดและถูกวิธีจริงๆ เพราะการดูแลเอาใจใส่ผิวหน้าของท่าน จะทำให้ท่านดูสวยสมวัย และเผลอๆ ดูสวยอ่อนเยาว์กว่าวัยอีกด้วยค่ะ ....จากใจ Miracle ขอบอกค่ะ ....